สาระน่ารู้

"ทิศทางลม" เรื่องควรรู้ก่อนสร้างบ้าน

2020-08-14 14:44:58 | 8,619 ครั้ง

"ทิศทางลม" เป็นสิ่งสำคัญที่ก่อนคุณจะซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง จะต้องมีการวางทิศบ้าน หรือจัดบ้านโดยให้ความสำคัญกับทิศทางลม เพราะหากบ้านวางถูกหลักทิศทางลมแล้ว นอกจากจะทำให้บ้านเย็นแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานจากการต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดพัดลม ตลอดทั้งวันด้วย ลองมาดูเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับทิศทางลมกันว่า ทิศบ้านแบบไหนที่ตั้งถูกหลักทิศทางลมบ้าง


ทิศทางลมคืออะไร

ทิศทางลม คือ กระแสอากาศที่เคลื่อนที่พัดผ่านเข้ามาตามทิศทางต่าง ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ในการใช้วางแปลนผังบ้านลงบนตำแหน่งของพื้นที่สำหรับปลูกสร้างบ้าน เพื่อให้บ้านหันไปในทิศทางที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและตำแหน่งที่ตั้ง


ข้อควรรู้เกี่ยวกับทิศทางลมสำหรับการปลูกบ้าน

ก่อนการสร้างบ้านหรือซื้อบ้านนั้น สิ่งหนึ่งที่ควรรู้และทำความเข้าใจ คือ การวางแผนผังของทิศบ้านให้เหมาะสมกับทิศทางลม แดด และฝน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปี โดยแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้


1. ฤดูร้อน

- อากาศร้อน จะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 35-39.9 อาศาเซลเซียส

- อากาศร้อนจัด จะมีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป

- โดยเริ่มต้นประมาณช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม


2. ฤดูฝน

- โดยทั่วไปแล้วจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนไม่ช้าก็เร็วกว่ากำหนดประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมื่อมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดผ่านปกคลุมประเทศไทย รวมถึงมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทำให้เริ่มมีฝนตกชุกทั่วทั้งประเทศ

ซึ่งสามารถวัดค่าปริมาณน้ำฝนได้ดังนี้

- ฝนวัดจำนวนไม่ได้: ปริมาณฝนน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร

- ฝนเล็กน้อย: ปริมาณฝนระหว่าง 1-10.0 มิลลิเมตร

- ฝนปนกลาง: ปริมาณฝนระหว่าง 1-35.0 มิลลิเมตร

- ฝนหนัก: ปริมาณฝนระหว่าง 1-90.0 มิลลิเมตร

- ฝนหนักมาก: ปริมาณฝนตั้งแต่ 1 มิลลิเมตรขึ้นไป

- เริ่มต้นประมาณช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน


3. ฤดูหนาว

- ในช่วงราว ๆ 1-2 สัปดาห์แรกก่อนเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศจะมีความแปรปรวนค่อนข้างสูงและเกิดขึ้นไม่แน่นอน ทำให้ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีอากาศเย็นแล้ว แต่ก็ยังคงมีฝนตกประปรายอยู่

ซึ่งเกณฑ์ในการแบ่งอุณหภูมิต่ำสุดของลักษณะสภาพอากาศในฤดูหนาว สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

- อากาศหนาวจัดจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส

- อากาศหนาวมีอุณหภูมิระหว่าง 0-15.9 องศาเซลเซียส

- อากาศเย็นมีอุณหภูมิระหว่าง 0-22.9 องศาเซลเซียส

- เริ่มต้นประมาณช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์


ทิศทางลมในแต่ละฤดู

ในแต่ละฤดทิศทางลมจะไม่เหมือนกัน ดังนี้

1. ฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ทิศทางลมจะพัดมาทางทิศใต้ ถือว่าเป็นลมที่ดี ช่วยลดความร้อนของอากาศลงได้

2. ฤดูฝน (ช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน) ทิศทางลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมนี้เรียกว่า “ลมมรสุม”

3. ฤดูหนาว (ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์) ทิศทางลมจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า "ลมหนาว"


ข้อดี-ข้อเสียของทิศทางลมที่ส่งผลต่อตัวบ้าน

การอ่านทิศทางลมให้ออก ถือเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานแล้ว ยังทำให้บ้านธรรมดา ๆ กลายมาเป็นบ้านประหยัดพลังงานได้อีกด้วย ซึ่งข้อดีและข้อเสียของทิศทางลมที่ส่งผลโดยตรงต่อตัวบ้านมีดังนี้


1. ข้อดีของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมได้ถูกต้อง

- ประหยัดพลังงาน เนื่องจากตัวบ้านถ่ายเทอากาศได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว และเย็นสบาย

- ยืดอายุการใช้งาน เนื่องจากลดแรงปะทะโดยตรงกับสภาพอากาศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแดด ลม และฝน

- สนุกกับการจัดการพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ภายในบ้านให้เข้ากับทิศทางลม เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดและลมจากธรรมชาติ

2. ข้อเสียของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมไม่ถูกต้อง

- หากตั้งทิศทางของบ้านในทิศทางรับกับลมมรสุมหรือได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม เมื่อเกิดพายุฝนลมฟ้ากระหน่ำ จะทำให้บ้านเกิดความเสียหายได้ เนื่องจากเป็นสุดเสี่ยงจากการพัดผ่านของกระแสลมและฝนโดยตรง


การรู้ข้อมูลเหล่านี้ มีส่วนช่วยทำให้ยืดอายุการใช้งานและถนอมบ้านให้อยู่กับเราไปนาน ๆ อยู่สบายในทุก ๆ ฤดู เนื่องจากสามารถช่วยให้บ้านหลบเลี่ยงแดดได้ในฤดูร้อน โดยการปลูกพันธุ์ไม้มงคลช่วยพรางและบดบังแสงแดด หรือสามารถเปิดบ้านรับลมและระบายอากาศช่วงไหน ทำให้บ้านไม่ร้อน เย็นสบาย และประหยัดพลังงาน หรือแม้กระทั่งหลบเลี่ยงการปะทะลมและเม็ดฝนโดยตรงจากทิศทางฝนที่สาดเข้ามายังตัวบ้านมากที่สุด


เนื้อหาจาก : ddproperty.com